วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[ไปดูมาแล้ว] ลำซิ่งซิงเกอร์ : ละครเวทีสุดม่วนซื่นจาก GTH



9 ปีที่แล้ว...

มีละครนักศึกษาเรื่องหนึ่ง ที่สร้างปรากฎการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน...

...บัตรขายหมดเกลี้ยงในพริบตา...

...ทำหอประชุมจุฬาฯ แน่นเอี๊ยดไปด้วยผู้ชมทั้ง 10 รอบ...

ด้วยความสนุก และการเล่าแบบปากต่อปาก ทำให้ละครเวทีเรื่องนี้ ทำให้ถูกชูฮกว่าเป็นละครนักศึกษาที่สนุกที่สุดในสมัยนั้น... และนี่คือประตูสู่วงการบันเทิงของ เต๋อ ฉันทวิชช์, โอปอล ปาณิสรา, ก้อย รัชวิน, ฝน โมโนโทน, มาดามมด และอีกมากมายคับคั่ง... ละครนิเทศจุฬาเรื่องนั้นมีชื่อว่า "ลำซิ่งซิงเกอร์"


... 9 ปีต่อมา ...

ค่ายหนังอารมณ์ดี GTH ได้เอาละครเวทีเรื่องนี้มาปัดฝุ่นทำใหม่ให้อลังการกว่าเดิม โดยทำร่วมกับ Scenario เซียนละครเวทีระดับแถวหน้าของเมืองไทย จนในที่สุดมันก็กลายมาเป็น....


ลำซิ่งซิงเกอร์ : ละครเวที "รักสุดซิ่ง" จาก GTH

"ลำซิ่งซิงเกอร์" ถือเป็นหนึ่งในโปรเจคฉลองครบรอบ 7 ปีของค่าย GTH ซึงก่อนหน้านี้ได้ส่ง "รัก 7 ปี | ดี 7 หน" ที่เป็นโปรเจคในเหตุผลเดียวกันออกมาแล้ว และอีกหนึ่งความฝันของ GTH ก็คือการที่จะได้ทำละครเวทีสักเรื่อง นี่จึงกลายเป็นละครเวทีเรื่องแรกของ GTH ไปอีกด้วยครับ


ลำซิ่งซิงเกอร์ เป็นเรื่องราวของ "แววตา" หญิงสาวคนหนึ่งที่อยากทำตามความฝันของตัวเอง คือการได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง แต่ถูกขัดความต้องการจากผู้เป็นแม่ ที่เกลียดอาชีพนักร้องเข้ากระดูกดำ จึงต้องโกหกว่าจะไปทำงานเป็นสาวออฟฟิศในกรุงเทพฯ แต่แล้วก็ไปโมดิฟายด์ตัวเองให้เป็นนักร้องชื่อดัง "มีแวว แก้วอีสาน" (แพนเค้ก-เขมนิจ) แล้วจึงสร้างชื่อเสียงอยู่เรื่อยมา


แต่แล้วมันคงจะไม่เกิดเรื่อง... ถ้าคิวแสดงของวง "เดอะ กลาส ออฟ ภูธร" ไม่มีคิวแสดงแบบเร่งด่วนที่ หมู่บ้านทุ่งนกกระจิบแห่งนี้ เพราะนอกจากมีแววต้องคอยหลบหน้าผู้เป็นแม่แล้ว ... มีแววยังต้องทำศึกกับ น้อยหน่า (โอปอล-ปาณิสรา) คู่ปรับเก่าตั้งแต่สมัยเรียน และมิหนำซ้ำ ยังต้องมาเจอ ปลัดขิก (เต๋อ-ฉันทวิชช์) รักแรกพบที่แอบชอบแววตามาตั้งแต่ ป.1 ด้วย!!


และนี่มันก็เป็นการดูละครเวทีครั้งแรกในชีวิตของผมเลยล่ะครับ บัตรก็ไม่ได้ซื้อด้วย แย่งเขามาอีกต่างหาก 5555+ แต่ถ้าถามผมว่าผมจะซื้อดูมั้ย เมื่อดูจากเนื้อหาของเรื่องแล้ว ถ้ามีโอกาสจริงๆ ก็จะกลับมาดูอีกรอบครับ เพราะเนื้อหาสนุก และชวนดิ้นทุกองค์เลยทีเดียว


อวดหน่อย อิอิ ^^ ตั๋วรอบ Preview ของ A-Time Media ครับ 555+

จุดเด่นของเรื่องนี้มันจะอยู่ที่การหักมุมเรื่องครับ คือจังหวะที่กำลังดราม่าแรงๆ ก็จะมีคนคอยขัดการดราม่าตลอด ไม่ว่าจะเป็นทั้งโอปอล และเต๋อ ส่วนอีกเรื่องก็คือความสมูทของฉาก ค่อนข้างสมูทสมชื่อ Scenario ครับ ส่วนจุดเด่นอีกเรื่องคือความอลังการ ถ้าให้เทียบกับของจุฬาฯ เวอร์ชันนี้ค่อนข้างอลังการพอสมควร แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของละครนักศึกษาอยู่เยอะพอสมควรครับ เพียงแต่ตัวละครใหญ่ๆ จะเปลี่ยนมาเป็นตัวละครที่มีอายุพอสมควร เช่นบทแม่ของมีแวว ก็ได้ พี่ตู่-นันทิดา มารับบท ส่วนแม่ของน้อยหน้าได้ พี่ต่อง-สาวิตรี มารับบทเช่นกัน พี่ต่องเราอาจจะติดตากับบท "นพนภา" สุดร้ายกาจเมื่อ 11 ปีที่แล้ว แต่กับ ลำซิ่งซิงเกอร์ ให้ลืมภาพนั้นให้หมดครับ! 555+

และนอกจากนี้ก็ยังมีบทของ เฮียเขี้ยว หัวหน้าวงสุดโฉดแต่ใจปลาซิว (ห่ะ?) ที่ได้ อาตู้-ดิเรก มารับบท (คนช่อง 7 มาสองคนครับ คือแพนเค้ก แล้วก็อาตู้) และยังมี เจ๊แกร่ง ที่ได้ ซันนี้ ยูโฟร์ มารับบทเช่นกันครับ



ใครที่อยากดูก็ ตอนนี้ก็ยังไม่สายครับ (เพราะปิดม่านรอบสุดท้ายวันที่ 13 มกราคม) ก็ไปดูกันได้ที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ครับ ไม่ใกล้ไม่ไกล.. เอสพลานาด รัชดานี่เองครับ อิอิ :3 (อย่าหลงไปแครายนะครับ ที่นั่นไม่มีโรงบอร์ดเวย์นะ 555) โดยละครกึ่งบอร์ดเวย์เรื่องนี้รู้สึกจะยาว 3 ชั่วโมงกว่าๆ ด้วย และมีเบรคก่อนขึ้นองค์สอง 15 นาทีครับ


ถ้าผมมีโอกาส... ก็อยากกลับไปชมภาพนี้ด้วยตาตัวเองอีกครั้ง :)
(ปล.. ถ่ายไม่ชัดเพราะนั่งแถวเกือบๆ หลังสุด ได้แค่นี้ก็ดีแล้วครับ ;w;)